Saturday, 1 April 2023

BTS ส่งซิก! ครึ่งปีหลังฟื้น ยอดผู้โดยสารบีที่ เอสพุ่ง 8 แสนเที่ยวคน/วัน

BTS เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจ ตอนเดือนตุลาคม 65-มี.ค.66 ดีขึ้นเนื่องมาจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส

เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องถึง 800,000 เที่ยวคน/วัน เวลาเดียวกันปี 66 จะมีการเปิดให้บริการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง นายสุรยุทธ ทวีกวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีที่เอส กรุ๊ป โฮถดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวมาว่า

แนวโน้มธุรกิจของบริษัทในงวดครึ่งปีหลัง (เดือนตุลาคม 65-มี…66) ยังเห็นแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ Move ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก เนื่องมาจาก จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

BTS ธุรกิจ

แล้วก็กลับมาแล้ว 90% ใกล้กับตอนก่อนเกิดโควิด-19

ในระดับ 90% ซึ่งจะเห็นได้จากตั้งแต่ตอนเทศกาลลอยกระทงเป็นต้นมา จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส เพิ่มมาเป็น 800,000 เที่ยวคน/วัน จากตอน
ก่อนหน้าอยู่ที่เฉลี่ย 700,000 เที่ยวคน/วัน เทียบกับตอนก่อนเกิดโควิด-19 ที่ระดับ 1 ล้านเที่ยวคน/วัน หลังจากผู้คนกลับมาเดินทาง

แล้วก็ดำเนินงานตามธรรมดาเยอะขึ้นเรื่อยๆ
รวมทั้งมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้นมาต่อเนื่อง

สำหรับปัจจัยหลักที่บริษัทฯ คิดว่าจะทำให้จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า บีทีเอส กลับไปที่ระดับตอนก่อนเกิดโควิด-19 ได้นั้นต้อง คาดหวังให้นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมา ซึ่งนับว่าเป็นกหน็งปัจจัยที่มีความนัยสำคัญ แยังไม่สามารถประเมินได้ว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะกลับมา

ได้เมื่อใด เพราขึ้นอยู่กับทางการจีน ในขณะที่ในส่วนของรายได้บีทีเอส ในปีนี้อจจะมีการน้อยลงบ้าง

เนื่องมาจากค่าตอบแทนสำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูแล้วก็เหลืองที่เป็นตอนท้ายของการก่อสร้าง ทำให้รายได่ในส่วนนี้น้อยลง

BTS ฟ้องกทม.ทวงค่าตอบแทนเดินรถอีกรอบหลังยอดพุ่ง 1.1 หมื่นลบ.แถมรอคอยคิวอีกคดี 2 หมื่นลบ.

นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) กล่าวมาว่า บริษัทจัดแจงยื่นฟ้องกรุงเทพฯ (กทม.) แล้วก็บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด อีกครั้งเร็ว ๆ นี้

เพื่อเรียกร้องให้จ่ายค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว หลังจากที่บริษัทยังไม่ได้รับชำระจากกทม. ทำให้จำนวนเงินที่ติดค้างรวมดอกเพิ่มขึ้นจากครั้งที่ผ่านที่ได้ยื่นฟ้องไปในราคารวมราว 1.7 หมื่นล้านบาท

ด้านศูนย์ข่าว บีทีเอส เปิดเผยว่า

เมื่อวานวันที่ (22 พ.ย.65) บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ที่กทม.ติดค้างตามสัญญาว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว ทั้งยังส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า แล้วก็ ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง แล้วก็ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต แล้วก็ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ

ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม64- 22 พ.ย.65) ซึ่งเป็นการฟ้องเสริมเติมจากคดีก่อนหน้าโดยส่วนต่อขยายที่ 1 มีวงเงิน 2,895 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) แล้วก็ ส่วนต่อขยายที่ 2 มีวงเงิน 8,173.5 ล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) ทำให้มีวงเงินเพิ่มขึ้นอีก 11,068.5 ล้านบาท

ยิ่งไปกว่านี้ BTSC จัดแจงฟ้องกทม.เพิ่มในส่วนงานติดตั้งระบบไฟฟ้า
แล้วก็เครื่องกล วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันนี้ตัวเลขยังไม่นิ่ง เพราะ

มีงานเสริมเติมเข้ามา แต่คาดว่าจะยื่นฟ้องได้ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนคดีที่ศาลปกครองกลางให้กทม.แล้วก็ บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ร่วมกันชำระค่าตอบแทนเดินรถแล้วก็ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียว

ส่วนต่อขยายที่ 1 แล้วก็ส่วนต่อขยายที่ 2 รวมราคา 11,754 ล้านบาท(รวมดอกเบี้ย) โดยให้ชำระภายในเวลา 180 วัน แต่ทางกทม.ได้ยื่นอุทธรณ์แล้ว ก็ต้องรอคอยศาลปกครองสูงสุดพิจารณาคดี

นายสุรยุทธ์ บอกว่า อย่างไรก็แล้วแต่ ประเด็นข้อพิพาทกับทางกทม.นั้น บริษัทคิดว่าไม่มีผลเสียต่อการขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนครั้งใหม่ของบริษัท

เนื่องมาจากประเด็นดังที่กล่าวถึงมาแล้วทางบริษัทได้ดำเนินงานต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขแล้วก็กฎเกณฑ์ที่ระบุ

แล้วก็ยังแน่ใจว่านักลงทุนที่สนใจซื้อหุ้นกู้หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของ บีทีเอส ยังเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัทสำหรับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามแผนกลยุทธ์ของธุรกิจทั้งยัง 3 ด้าน ได้แก่ Move Mix แล้วก็ Match

สำหรับในการเสนอขายหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนที่จะบริษัทจะเสนอขายในครั้งนี้ เป็นมิติใหม่สำหรับในการลงทุน ซึ่งทุกคนที่เข้าลงทุนจะมีส่วนร่วมสำหรับการสร้างความยั่งยืนไปพร้อม ๆ กับบริษัท ด้วยผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพึงพอใจ แล้วก็การเสี่ยงในระดับที่ยอมรับได้ แล้วก็แน่ใจว่าจะได้รับการตอบกลับที่ดีจากนักลงทุน

BTS แสนเที่ยว

หุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืนของ BTS ที่ทำการเสนอขายในครั้งนี้

แบ่งได้เป็น 4 รุ่น วงเงินเสนอขายรวม 1.3 หมื่นล้านบาท ระบุจ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน แล้วก็จะเสนอขายระหว่างวันที่ 25 แล้วก็ 28-29 พ.ย. 65 ผ่าน ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ธนาคารกรุงไทย (KTB) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ธนาคารไทยพาณิชย์ แล้วก็ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT)

หุ้นกู้ดังที่กล่าวถึงมาแล้วได้รับการจัดอันดับ

ความน่าไว้ใจที่ระดับ A จากทริสเรทติ้ง แล้วก็ระบุราคาจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท แล้วก็ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท

สำหรับในการนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้บริษัทจะมีการจัดสรรไปใช้เพื่อสำหรับในการเป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท นำไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน แล้วก็การลงทุนต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความยั่งยืน ทั้งยังการปรับแก้ระบบรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ดีขึ้น

รวมทั้งจะนำไปใช้ในการพัฒนาระบบรถไฟฟ้าสายสีเหลืองแล้วก็สีชมพู ซึ่งมีระบุเปิดให้บริการภายในปี 66 แล้วก็นำไปลงทุนในโครงการที่ส่งเสริมความยั่งยืน แล้วก็ดูแลสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ

“การออกหุ้นกู้ SLB ของบริษัทครั้งนี้สอดรับกับกลยุทธ์ระยะยาวด้านการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ของ บีทีเอส โดยการคงสถานะความเป็นกลางทางคาร์บอน และกำหนดให้เพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าที่มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อย่างน้อย 10% ของการดำเนินงาน และบริษัทคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการจองซื้อหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่ยืนของ BTS ในครั้งนี้ เพราะตอนนี้จากการแสดงความสนใจเข้ามาถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และหากได้รับการตอบรับที่ดีมาก บริษัทอาจจะมีการออกหุ้นกู้ในรูปแบบนี้อีกในช่วงปี 66 รวมถึงการหาโซลูชั่นในการให้กลุ่มนักลงทุนรายย่อยสามารถเข้าถึงหุ้นกู้ส่งสริมความยั่งยืนของ BTS ผ่านการจองซื้อบนดิจิทัลด้วยเช่นกัน” นายสุรยุทธ กล่าว