Saturday, 1 April 2023

ความคืบหน้า ลิขสิทธิ์บอลโลก 2022 ยังไร้วี่แววจากฟีฟ่า ภายใน 6 วันจะชี้เป็นชี้ตาย

ความคืบหน้า ลิขสิทธิ์บอลโลก 2022 ยังไร้วี่แววจากฟีฟ่า ภายใน 6 วันจะชี้เป็นชี้ตาย หลังจากผู้ว่า กกท. ติดต่อไปยังฟีฟ่า ขอลดค่าลิขสิทธิ์ลงก็ยังไร้วี่แววในการตอบกลับและก็ยืนยันว่า ภายใน 6 วันนับแต่นี้ไปจะชี้ขาดทุกเรื่อง

ความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์ ระหว่างวันที่ 20 พ.ย.-18 เดือนธันวาคมนี้ ภายหลัง คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และก็กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ลงความเห็นอนุมัติเงินช่วยเหลือจาก กองทุนวิจัย และก็พัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และก็กิจการโทรคมนาคม เพื่อ

ประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) ให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (การกีฬาแห่งประเทศไทย) เพื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท จากจำนวนเต็ม ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย เสนอขอรับการสนับสนุนไป 1,600 ล้านบาท ทำให้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องหาภาคเอกชน เข้ามาสนับสนุนอีก 1,000 ล้านบาทนั้น

ลิขสิทธิ์บอลโลก ภายใน

ลิขสิทธิ์บอลโลก ปัจจุบัน “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย

กล่าวมาว่า เดี๋ยวนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ยังรอคำตอบจากทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ผ่านทางเอเย่นต์ ที่ประสานงานกันมา อยู่

ซึ่งการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ส่งอีเมล ขอลดไปอีกที ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย.ก่อนหน้าที่ผ่านมา เพราะว่ามีความเห็นว่าราคาที่ฟีฟ่าเสนอมา ยังแพงเหลือเกิน

แต่วันที่ 13 พ.ย. 2565 ทางเอเย่นต์ฟีฟ่า ก็ยังไม่ได้มีการตอบรับกลับมาแต่อย่างใด ทั้งนี้แม้ยังไม่มีการตอบรับกลับมา วันที่ 14 พ.ย. ก็จะทำหนังสือส่งเข้าไปอีกครั้ง

เพราะว่าเวลากระชั้นเข้ามามากแล้ว ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ส่วนข่าวจะมีการใช้เงินจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ 600 ล้านบาท เพื่อนำไปสมทบค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกครั้งนี้

ในเรื่องนี้ จำเป็นที่จะต้องชะลอเอาไว้ก่อน ต้องหารือกันภายในบอร์ดกองทุนฯ และก็รอดูทีท่าของฟีฟ่าอีกทีด้วย ว่าจะขายลิขสิทธิ์เท่าไร

เวลาเดียวกัน นอกเหนือจากเอกชน 5 รายที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ประสานงานเพื่อช่วยสนับสนุนถ่ายทอดสดแล้ว

เดี๋ยวนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ยังเดินหน้าหาสปอนเซอร์เพิ่มเติมอีกอย่างสม่ำเสมอ

เพราะว่าไม่ใช่แค่เพียงแต่ค่าลิขสิทธิ์ ที่ต้องจ่าย แม้ได้ถ่ายทอด ยังมีค่าภาษี การตั้งศูนย์ถ่ายทอดสด ค่ารับสัญญาณดาวเทียม ค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าเวลาสถานี เพิ่มมาอีกด้วย

รายงานข่าวสารแจ้งว่า สำหรับ หนทางที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและก็กีฬา นำเสนอ จะขอความคิดเห็นจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)

ในการประชุมวันที่ 15 พ.ย. เพื่อยืมเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มาสมทบในการไปซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 ก่อน แล้วนำเงินจากภาคเอกชนที่หามาได้หลังจากนี้ มาคืนให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น เป็นเพียงแค่แนวความคิดก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ซึ่ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไม่เห็นพ้อง เพราะฉะนั้นในการประชุม ครม.

วันที่ 15 พ.ย. จะไม่มีการนำเรื่องนี้เสนอต่อห้องประชุม ครม. ส่วนความคืบหน้าการพูดจาซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก วันที่ 13 พ.ย.

ยังปราศจากความแจ่มแจ้ง เพราะว่าฟีฟ่า ยังไม่ตอบกลับมาว่า จะยอมลดให้กับประเทศไทยได้เท่าไร ต้องรอจนถึงวันที่ 14 พ.ย.

ลิขสิทธิ์บอลโลก ชี้เป็นชี้ตาย

ทั้งนี้เรื่องที่กลุ้มอกกลุ้มใจอีกประเด็น ในระหว่างวันที่ 16-18 พ.ย. ลิขสิทธิ์บอลโลก

เป็นวันหยุดในโอกาสไทยเป็นเจ้าภาพประชุมสัปดาห์ ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคอีก ก็เลยทำให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน ปัจจุบันนี้คนที่ไม่ค่อยสบายใจที่สุดเป็น ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่จำต้องเร่งจัดการเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ให้จบด้วยดี และก็เร็วที่สุด

โดยวันที่ 14 พ.ย. สำนักอัยการสูงสุด จะเชิญฝ่ายกฎหมายของ การกีฬาแห่งประเทศไทย ไปพูดคุยทำความเข้าใจเรื่องข้อกฎหมายทุกข้อความสำคัญ เวลาเดียวกัน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย จะต้องไปเซ็นเอ็มโอยู กับ กสทช. หลังจากที่ กสทช. อนุมัติงบประมาณจาก กองทุนกทปส. ให้ 600 ล้านบาทก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

รายงานข่าวสารยังระบุอีกว่า ปัจจุบันนี้มีเงิน 600 ล้านบาทจาก กสทช. และก็ 400 ล้านบาทจาก 3 บริษัทเอกชนสนับสนุนเพิ่มเติมให้เช่น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน),

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ส่วนอีก 2 บริษัท เช่น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) และก็บริษัท ปตท. สำรวจผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) นั้น ทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย ส่งหนังสือขอรับการส่งเสริมเข้าไป

ช่วงวันที่ 11 พ.ย.ก่อนหน้าที่ผ่านมา แต่ติดวันเสาร์ และก็อาทิตย์ ก็เลยยังไม่มีการตอบกลับมา เดี๋ยวนี้ แม้รวมเงินจาก กสทช. 600 ล้านบาท และก็เอกชน ที่คาดว่าจะเกื้อหนุน โดยประมาณ 400 ล้านบาท การกีฬาแห่งประเทศไทย จะมีเงินอยู่โดยประมาณ 1,000 ล้านบาท

ซึ่งในส่วนของ ทีท่าของ ฟีฟ่า ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา คือ ไม่ยอมลดให้เหลือ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือโดยประมาณ 1,140 ล้านบาท โดยบอกมาว่า ถ้าเราจะซื้อในราคาที่ถูกกว่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือโดยประมาณ 1,444 ล้านบาท

เราจะต้องซื้อเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันนี้ฟีฟ่า ยืนกรานว่า ไม่ยอมขายแพ็กเกจย่อย คือ ซื้อสิทธิ์ตั้งแต่รอบ 2 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ไทย บังคับให้ซื้อฟูลแพ็กเกจ 64 แมตช์เท่านั้น แต่การกีฬาแห่งประเทศไทยก็ได้แสดงความจำเป็น ขอลดเข้าไปอีก

ซึ่งถึงเวลานี้ ฟีฟ่า ยังนิ่งไม่มีการตอบอีเมลกลับมาแต่อย่างใด อาจจะต้องรอดูในวันที่ 14 พ.ย.อีกที รายงานข่าวสารแจ้งอีกว่า ในส่วนของขั้นตอนที่ฟีฟ่า ระบุและก็ขีดเส้นตายเอาไว้ แม้เลือกที่จะซื้อลิขสิทธิ์ ภายในวันที่ 18 พ.ย. 2565 ไทยเราต้องปิดดีลกับฟีฟ่าให้เสร็จว่า จะซื้อในราคาเท่าไร จากนั้นวันที่ 19 พ.ย. ก่อนเตะครั้งแรกฟุตบอลโลก 2022 ไทยจะต้องโอนเงินทั้งหมดไปให้ฟีฟ่า พร้อมภาษี 15 เปอร์เซ็นต์ ให้เรียบร้อยแล้ว